ปัญหาบ้านทรุดส่งผลกระทบทั้งต่อโครงสร้างบ้านและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
February 18, 2025

ปัญหาบ้านทรุด และบ้านร้าว เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหาแบบนี้มาแล้วกับบ้านหลายหลัง ซึ่งถือเป็นความเสียหายร้ายแรงที่ส่งผลกระทบทั้งต่อโครงสร้างบ้านและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย การเรียนรู้และเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องและถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของบ้านทุกคน


สัญญาณอันตรายของบ้านทรุด-ร้าวที่ต้องระวัง 

สัญญาณอันตรายของบ้านทรุด-ร้าวที่ต้องเฝ้าระวัง มีดังต่อไปนี้

  1. ปัญหาประตูและหน้าต่าง

    • ประตูหรือหน้าต่างเปิดปิดติดขัด ต้องใช้แรงผลักหรือดึงมากกว่าปกติ
    • วงกบเริ่มเอียงหรือบิดเบี้ยว ทำให้บานประตูหรือหน้าต่างไม่อยู่ในแนวตรง
    • มีช่องว่างระหว่างประตูกับวงกบที่ผิดปกติ โดยอาจกว้างขึ้นที่ด้านบนหรือด้านล่าง
    • บานพับหลวมหรือหลุดง่ายผิดปกติ แม้จะขันน็อตแน่นแล้ว

  2. รอยร้าวที่โครงสร้างสำคัญ หรือสัญญาณบ้านร้าวแบบอันตราย

    • รอยร้าวแนวทแยงมุมที่มุมประตูหรือหน้าต่าง ซึ่งบ่งชี้ถึงการทรุดตัวที่ไม่เท่ากัน
    • รอยร้าวที่มีความกว้างเกิน 3 มิลลิเมตร โดยเฉพาะถ้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
    • รอยร้าวที่เสาหรือคาน ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักในการรับน้ำหนัก
    • รอยร้าวที่ทะลุจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของผนัง

  3. ปัญหาระบบท่อและการรั่วซึม

    • ท่อน้ำแตกหรือรั่ว โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อหรือจุดเชื่อมต่อ
    • น้ำซึมขึ้นตามผนังหรือพื้น แม้ไม่มีฝนตก
    • พบคราบความชื้นหรือเชื้อราบริเวณฐานผนังหรือมุมห้อง
    • ได้ยินเสียงน้ำไหลผิดปกติในผนังหรือใต้พื้น

  4. ความผิดปกติของพื้นบ้าน

    • พื้นไม่เรียบ มีจุดนูน บวม หรือยุบตัว
    • พื้นมีการทรุดตัวไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความลาดเอียง
    • กระเบื้องพื้นแตกร้าวหรือหลุดล่อน โดยเฉพาะในแนวยาว
    • เกิดเสียงดังเวลาเดินบนพื้นในจุดที่ไม่เคยมีมาก่อน

  5. สภาพดินรอบบ้านผิดปกติ

    • พบพื้นดินยุบตัวเป็นโพรงโดยเฉพาะหลังฝนตกหนัก
    • ดินรอบฐานรากมีการกัดเซาะหรือพังทลาย
    • น้ำท่วมขังบริเวณรอบบ้านนานผิดปกติ
    • พบรอยแยกของดินรอบ ๆ ตัวบ้าน

  6. สัญญาณเตือนอื่น ๆ

    • ได้ยินเสียงแปลก ๆ จากโครงสร้างบ้าน เช่น เสียงลั่น หรือเสียงดังกรอบแกรบ
    • วัสดุตกแต่งหลุดร่วง เช่น กระเบื้องผนัง หรือฝ้าเพดาน
    • ประตูหรือหน้าต่างปิดเองโดยไม่ได้ล็อก เนื่องจากพื้นเอียง
    • มีกลิ่นอับชื้นผิดปกติในบริเวณที่ไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อพบสัญญาณข้างต้นเหล่านี้ โดยเฉพาะหากพบหลายสัญญาณเกิดขึ้นพร้อมกัน ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและประเมินความเสียหายโดยละเอียด เพราะหากปล่อยไว้นานอาจเกิดอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สินได้


ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้บ้านทรุด 

สภาพดินฐานราก

สาเหตุหลักของพื้นบ้านทรุดมักเกิดจากดินใต้ฐานรากที่ไม่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นดินอ่อน ดินเหนียว หรือดินถม ที่ยังอัดไม่แน่นเพียงพอ ทำให้เกิดการทรุดตัวเมื่อรับน้ำหนักอาคาร

การระบายน้ำที่ไม่ดี 

ระบบระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้น้ำขังสะสม ส่งผลให้ดินอ่อนตัวและเกิดการทรุดตัวไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำปริมาณมาก

วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน

การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ด้อยคุณภาพ โดยเฉพาะคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างโดยตรง

การออกแบบและก่อสร้างที่ไม่เหมาะสม

การออกแบบที่ไม่คำนึงถึงน้ำหนักบรรทุกที่แท้จริง หรือการก่อสร้างที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม อาจนำไปสู่ปัญหาการทรุดตัวในอนาคต


วิธีป้องกันบ้านทรุดตั้งแต่เริ่มสร้าง

การเลือกใช้คอนกรีตและวัสดุคุณภาพสูง

ควรเลือกใช้คอนกรีตที่ได้มาตรฐาน มีความแข็งแรงเหมาะสมกับการใช้งาน และควบคุมคุณภาพในการผลิตด้วยระบบที่ทันสมัย

การออกแบบฐานรากที่เหมาะสม

ควรออกแบบฐานรากให้สอดคล้องกับสภาพดินและน้ำหนักบรรทุก โดยอาจต้องมีการเสริมความแข็งแรงด้วยเสาเข็มตอกหรือเสาเข็มเจาะ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้างบ้าน 

การควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง 

ควรควบคุมการก่อสร้างอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การบดอัดดิน การตอกเสาเข็ม หรือเจาะเสาเข็มจนถึงการเทคอนกรีต โดยมีวิศวกรควบคุมงานอย่างใกล้ชิด

ระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ

ควรออกแบบและติดตั้งระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทั้งรางน้ำ ท่อระบายน้ำ และบ่อพัก เพื่อป้องกันน้ำขัง

การเลือกใช้คอนกรีต และวัสดุคุณภาพสูงคือวิธีป้องกันปัญหาบ้านทรุด


วิธีแก้ไขบ้านทรุดเริ่มต้นที่การบำรุงรักษาเพื่อป้องกันปัญหา

การตรวจสอบประจำปี

ควรมีการตรวจสอบโครงสร้างบ้านอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะหลังฤดูฝน เพื่อตรวจหารอยร้าว การทรุดตัว หรือความเสียหายอื่น ๆ

การดูแลระบบระบายน้ำ

ทำความสะอาดรางน้ำและท่อระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ไม่เกิดการอุดตัน

การปรับปรุงพื้นที่รอบบ้าน

ควรดูแลพื้นที่รอบบ้านไม่ให้มีน้ำขัง ปรับระดับดินให้มีความลาดเอียงออกจากตัวบ้าน และอาจปลูกหญ้าเพื่อช่วยซับน้ำ

การเสริมความแข็งแรงโครงสร้าง

หากพบโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง ควรรีบดำเนินการเสริมความแข็งแรงก่อนที่ปัญหาจะลุกลามรุนแรง


บ้านทรุดแก้ยังไง ? เมื่อพบสัญญาณผิดปกติควรทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนการประเมินความเสียหาย

ขั้นตอนการบันทึกข้อมูลความเสียหายของบ้านควรทำอย่างเป็นระบบ ดังนี้

  1. การระบุตำแหน่งความเสียหาย

บันทึกตำแหน่งที่พบความเสียหายอย่างชัดเจน เช่น ผนังห้องนอนด้านทิศเหนือ พื้นห้องครัว หรือเสาต้นที่ 2 จากประตูทางเข้า และอาจทำแผนผังบ้านอย่างคร่าว ๆ และทำเครื่องหมายจุดที่พบความเสียหาย

  1. การวัดขนาดและบันทึกลักษณะความเสียหาย

วัดความกว้าง ความยาว และความลึกของรอยร้าว บันทึกลักษณะของความเสียหาย เช่น รอยร้าวแนวตั้ง แนวนอน หรือทแยงมุม และระบุว่าเป็นรอยร้าวทะลุผนังหรือไม่ และมีการแตกร่วนของวัสดุหรือไม่

  1. การบันทึกภาพถ่าย

    • ถ่ายภาพระยะใกล้แสดงรายละเอียดของความเสียหาย
    • ถ่ายภาพระยะไกลให้เห็นตำแหน่งความเสียหายเทียบกับโครงสร้างโดยรวม
    • ถ่ายภาพโดยมีไม้บรรทัดหรือวัตถุอ้างอิงขนาดประกอบ

  2. การติดตั้งเครื่องหมายอ้างอิง

ติดตั้งเครื่องหมายหรือสติกเกอร์ที่ปลายรอยร้าวทั้งสองด้าน ทำเครื่องหมายวัดขนาดรอยร้าว ณ จุดต่าง ๆ และระบุวันที่ที่ทำเครื่องหมายกำกับไว้

  1. การบันทึกการเปลี่ยนแปลง

จดบันทึกวันที่ตรวจพบความเสียหายครั้งแรก ตรวจสอบและบันทึกการเปลี่ยนแปลงทุก 1-2 สัปดาห์ และคอยสังเกตว่ารอยร้าวขยายตัวหรือมีความเสียหายเพิ่มเติมหรือไม่

  1. การบันทึกปัจจัยแวดล้อม

บันทึกสภาพอากาศ โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกหนัก จดบันทึกกิจกรรมก่อสร้างในบริเวณใกล้เคียง และบันทึกการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอาคาร เช่น การต่อเติม หรือการเพิ่มน้ำหนักบรรทุก

การบันทึกข้อมูลอย่างละเอียดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สาเหตุและวางแผนแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด


การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

ควรปรึกษาวิศวกรโยธาที่มีประสบการณ์ด้านโครงสร้างอาคารโดยเฉพาะ เพื่อให้ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างละเอียด ผู้เชี่ยวชาญอาจต้องทำการทดสอบคุณสมบัติของดิน ตรวจสอบสภาพฐานราก หรือใช้เครื่องมือพิเศษในการประเมินความแข็งแรงของโครงสร้าง เพื่อวางแผนแก้ไขที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ


วิธีแก้ไขบ้านทรุดที่เหมาะสม

วิธีแก้ไขปัญหาบ้านทรุดต้องทำอย่างเป็นระบบตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ อาจรวมถึงการอัดฉีดซีเมนต์เพื่อเสริมความแข็งแรงของดินใต้ฐานราก การติดตั้งเสาเข็มเสริมเพื่อรับน้ำหนักเพิ่มเติม การซ่อมแซมระบบระบายน้ำที่ชำรุด หรือการเสริมโครงสร้างในจุดที่รับน้ำหนักมาก ทั้งนี้ควรมีการติดตามผลการแก้ไขอย่างต่อเนื่องและทำการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

ป้องกันปัญหาบ้านทรุด บ้านร้าว เริ่มต้นที่การเลือกใช้คอนกรีตที่ได้มาตรฐาน ORC Premier ให้บริการคอนกรีตผสมเสร็จคุณภาพสูง ราคาเหมาะสม ควบคุมการผลิตด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน พร้อมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและควบคุมการเทคอนกรีตอย่างถูกวิธี เพื่อให้บ้านของคุณแข็งแรง ทนทาน ตั้งแต่โครงสร้างฐานราก ปรึกษาฟรี ! สอบถามเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางเหล่านี้

 Tel: 061-558-5558

 LINE: @ORCCONCRETE

 Facebook: ORC คอนกรีต


ข้อมูลอ้างอิง

  1. HOW TO PREVENT SUBSIDENCE. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จาก https://www.homeprotect.co.uk/subsidence-insurance/how-to-prevent-subsidence