- By orcconcrete
- Article
- 0 Comment
ปัญหาบ้านทรุด และบ้านร้าว เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหาแบบนี้มาแล้วกับบ้านหลายหลัง ซึ่งถือเป็นความเสียหายร้ายแรงที่ส่งผลกระทบทั้งต่อโครงสร้างบ้านและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย การเรียนรู้และเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องและถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของบ้านทุกคน
สัญญาณอันตรายของบ้านทรุด-ร้าวที่ต้องระวัง
สัญญาณอันตรายของบ้านทรุด-ร้าวที่ต้องเฝ้าระวัง มีดังต่อไปนี้
- ปัญหาประตูและหน้าต่าง
- ประตูหรือหน้าต่างเปิดปิดติดขัด ต้องใช้แรงผลักหรือดึงมากกว่าปกติ
- วงกบเริ่มเอียงหรือบิดเบี้ยว ทำให้บานประตูหรือหน้าต่างไม่อยู่ในแนวตรง
- มีช่องว่างระหว่างประตูกับวงกบที่ผิดปกติ โดยอาจกว้างขึ้นที่ด้านบนหรือด้านล่าง
- บานพับหลวมหรือหลุดง่ายผิดปกติ แม้จะขันน็อตแน่นแล้ว
- รอยร้าวที่โครงสร้างสำคัญ หรือสัญญาณบ้านร้าวแบบอันตราย
- รอยร้าวแนวทแยงมุมที่มุมประตูหรือหน้าต่าง ซึ่งบ่งชี้ถึงการทรุดตัวที่ไม่เท่ากัน
- รอยร้าวที่มีความกว้างเกิน 3 มิลลิเมตร โดยเฉพาะถ้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- รอยร้าวที่เสาหรือคาน ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักในการรับน้ำหนัก
- รอยร้าวที่ทะลุจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของผนัง
- ปัญหาระบบท่อและการรั่วซึม
- ท่อน้ำแตกหรือรั่ว โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อหรือจุดเชื่อมต่อ
- น้ำซึมขึ้นตามผนังหรือพื้น แม้ไม่มีฝนตก
- พบคราบความชื้นหรือเชื้อราบริเวณฐานผนังหรือมุมห้อง
- ได้ยินเสียงน้ำไหลผิดปกติในผนังหรือใต้พื้น
- ความผิดปกติของพื้นบ้าน
- พื้นไม่เรียบ มีจุดนูน บวม หรือยุบตัว
- พื้นมีการทรุดตัวไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความลาดเอียง
- กระเบื้องพื้นแตกร้าวหรือหลุดล่อน โดยเฉพาะในแนวยาว
- เกิดเสียงดังเวลาเดินบนพื้นในจุดที่ไม่เคยมีมาก่อน
- สภาพดินรอบบ้านผิดปกติ
- พบพื้นดินยุบตัวเป็นโพรงโดยเฉพาะหลังฝนตกหนัก
- ดินรอบฐานรากมีการกัดเซาะหรือพังทลาย
- น้ำท่วมขังบริเวณรอบบ้านนานผิดปกติ
- พบรอยแยกของดินรอบ ๆ ตัวบ้าน
- สัญญาณเตือนอื่น ๆ
- ได้ยินเสียงแปลก ๆ จากโครงสร้างบ้าน เช่น เสียงลั่น หรือเสียงดังกรอบแกรบ
- วัสดุตกแต่งหลุดร่วง เช่น กระเบื้องผนัง หรือฝ้าเพดาน
- ประตูหรือหน้าต่างปิดเองโดยไม่ได้ล็อก เนื่องจากพื้นเอียง
- มีกลิ่นอับชื้นผิดปกติในบริเวณที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อพบสัญญาณข้างต้นเหล่านี้ โดยเฉพาะหากพบหลายสัญญาณเกิดขึ้นพร้อมกัน ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและประเมินความเสียหายโดยละเอียด เพราะหากปล่อยไว้นานอาจเกิดอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สินได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้บ้านทรุด
สภาพดินฐานราก
สาเหตุหลักของพื้นบ้านทรุดมักเกิดจากดินใต้ฐานรากที่ไม่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นดินอ่อน ดินเหนียว หรือดินถม ที่ยังอัดไม่แน่นเพียงพอ ทำให้เกิดการทรุดตัวเมื่อรับน้ำหนักอาคาร
การระบายน้ำที่ไม่ดี
ระบบระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้น้ำขังสะสม ส่งผลให้ดินอ่อนตัวและเกิดการทรุดตัวไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำปริมาณมาก
วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ด้อยคุณภาพ โดยเฉพาะคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างโดยตรง
การออกแบบและก่อสร้างที่ไม่เหมาะสม
การออกแบบที่ไม่คำนึงถึงน้ำหนักบรรทุกที่แท้จริง หรือการก่อสร้างที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม อาจนำไปสู่ปัญหาการทรุดตัวในอนาคต
วิธีป้องกันบ้านทรุดตั้งแต่เริ่มสร้าง
การเลือกใช้คอนกรีตและวัสดุคุณภาพสูง
ควรเลือกใช้คอนกรีตที่ได้มาตรฐาน มีความแข็งแรงเหมาะสมกับการใช้งาน และควบคุมคุณภาพในการผลิตด้วยระบบที่ทันสมัย
การออกแบบฐานรากที่เหมาะสม
ควรออกแบบฐานรากให้สอดคล้องกับสภาพดินและน้ำหนักบรรทุก โดยอาจต้องมีการเสริมความแข็งแรงด้วยเสาเข็มตอกหรือเสาเข็มเจาะ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้างบ้าน
การควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง
ควรควบคุมการก่อสร้างอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การบดอัดดิน การตอกเสาเข็ม หรือเจาะเสาเข็มจนถึงการเทคอนกรีต โดยมีวิศวกรควบคุมงานอย่างใกล้ชิด
ระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ
ควรออกแบบและติดตั้งระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทั้งรางน้ำ ท่อระบายน้ำ และบ่อพัก เพื่อป้องกันน้ำขัง

วิธีแก้ไขบ้านทรุดเริ่มต้นที่การบำรุงรักษาเพื่อป้องกันปัญหา
การตรวจสอบประจำปี
ควรมีการตรวจสอบโครงสร้างบ้านอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะหลังฤดูฝน เพื่อตรวจหารอยร้าว การทรุดตัว หรือความเสียหายอื่น ๆ
การดูแลระบบระบายน้ำ
ทำความสะอาดรางน้ำและท่อระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ไม่เกิดการอุดตัน
การปรับปรุงพื้นที่รอบบ้าน
ควรดูแลพื้นที่รอบบ้านไม่ให้มีน้ำขัง ปรับระดับดินให้มีความลาดเอียงออกจากตัวบ้าน และอาจปลูกหญ้าเพื่อช่วยซับน้ำ
การเสริมความแข็งแรงโครงสร้าง
หากพบโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง ควรรีบดำเนินการเสริมความแข็งแรงก่อนที่ปัญหาจะลุกลามรุนแรง
บ้านทรุดแก้ยังไง ? เมื่อพบสัญญาณผิดปกติควรทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนการประเมินความเสียหาย
ขั้นตอนการบันทึกข้อมูลความเสียหายของบ้านควรทำอย่างเป็นระบบ ดังนี้
- การระบุตำแหน่งความเสียหาย
บันทึกตำแหน่งที่พบความเสียหายอย่างชัดเจน เช่น ผนังห้องนอนด้านทิศเหนือ พื้นห้องครัว หรือเสาต้นที่ 2 จากประตูทางเข้า และอาจทำแผนผังบ้านอย่างคร่าว ๆ และทำเครื่องหมายจุดที่พบความเสียหาย
- การวัดขนาดและบันทึกลักษณะความเสียหาย
วัดความกว้าง ความยาว และความลึกของรอยร้าว บันทึกลักษณะของความเสียหาย เช่น รอยร้าวแนวตั้ง แนวนอน หรือทแยงมุม และระบุว่าเป็นรอยร้าวทะลุผนังหรือไม่ และมีการแตกร่วนของวัสดุหรือไม่
- การบันทึกภาพถ่าย
- ถ่ายภาพระยะใกล้แสดงรายละเอียดของความเสียหาย
- ถ่ายภาพระยะไกลให้เห็นตำแหน่งความเสียหายเทียบกับโครงสร้างโดยรวม
- ถ่ายภาพโดยมีไม้บรรทัดหรือวัตถุอ้างอิงขนาดประกอบ
- การติดตั้งเครื่องหมายอ้างอิง
ติดตั้งเครื่องหมายหรือสติกเกอร์ที่ปลายรอยร้าวทั้งสองด้าน ทำเครื่องหมายวัดขนาดรอยร้าว ณ จุดต่าง ๆ และระบุวันที่ที่ทำเครื่องหมายกำกับไว้
- การบันทึกการเปลี่ยนแปลง
จดบันทึกวันที่ตรวจพบความเสียหายครั้งแรก ตรวจสอบและบันทึกการเปลี่ยนแปลงทุก 1-2 สัปดาห์ และคอยสังเกตว่ารอยร้าวขยายตัวหรือมีความเสียหายเพิ่มเติมหรือไม่
- การบันทึกปัจจัยแวดล้อม
บันทึกสภาพอากาศ โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกหนัก จดบันทึกกิจกรรมก่อสร้างในบริเวณใกล้เคียง และบันทึกการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอาคาร เช่น การต่อเติม หรือการเพิ่มน้ำหนักบรรทุก
การบันทึกข้อมูลอย่างละเอียดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สาเหตุและวางแผนแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
ควรปรึกษาวิศวกรโยธาที่มีประสบการณ์ด้านโครงสร้างอาคารโดยเฉพาะ เพื่อให้ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างละเอียด ผู้เชี่ยวชาญอาจต้องทำการทดสอบคุณสมบัติของดิน ตรวจสอบสภาพฐานราก หรือใช้เครื่องมือพิเศษในการประเมินความแข็งแรงของโครงสร้าง เพื่อวางแผนแก้ไขที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
วิธีแก้ไขบ้านทรุดที่เหมาะสม
วิธีแก้ไขปัญหาบ้านทรุดต้องทำอย่างเป็นระบบตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ อาจรวมถึงการอัดฉีดซีเมนต์เพื่อเสริมความแข็งแรงของดินใต้ฐานราก การติดตั้งเสาเข็มเสริมเพื่อรับน้ำหนักเพิ่มเติม การซ่อมแซมระบบระบายน้ำที่ชำรุด หรือการเสริมโครงสร้างในจุดที่รับน้ำหนักมาก ทั้งนี้ควรมีการติดตามผลการแก้ไขอย่างต่อเนื่องและทำการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
ป้องกันปัญหาบ้านทรุด บ้านร้าว เริ่มต้นที่การเลือกใช้คอนกรีตที่ได้มาตรฐาน ORC Premier ให้บริการคอนกรีตผสมเสร็จคุณภาพสูง ราคาเหมาะสม ควบคุมการผลิตด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน พร้อมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและควบคุมการเทคอนกรีตอย่างถูกวิธี เพื่อให้บ้านของคุณแข็งแรง ทนทาน ตั้งแต่โครงสร้างฐานราก ปรึกษาฟรี ! สอบถามเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางเหล่านี้
Tel: 061-558-5558
LINE: @ORCCONCRETE
Facebook: ORC คอนกรีต
ข้อมูลอ้างอิง
- HOW TO PREVENT SUBSIDENCE. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จาก https://www.homeprotect.co.uk/subsidence-insurance/how-to-prevent-subsidence